ขึ้นชื่อว่าอาหารไทย มีมากมายจนเลือกรับประทานกันไม่หวาดไม่ไหว แต่ก็ยังมีอีกหลายเมนูที่คนไทยอาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อ และคุ้นลิ้นเท่าไหร่นัก เพราะทุกวันนี้หารับประทานได้ยากมาก ชนิดที่ว่าถ้าไม่มีเทศกาลวันสำคัญแบบไทยแท้ๆ คุณอาจจะไม่เคยเห็นเมนูเหล่านี้เลยก็เป็นได้
1. ม้าฮ่อ
เป็นอาหารว่างไทยโบราณที่ใช้ผลไม้รสเปรี้ยวจัด เช่น สับปะรด ส้มเขียวหวาน ส้มโอ ปอกเปลือกแบ่งเป็นชิ้น แล้ววางทับด้วยเครื่องเทศปรุงรสหวานเค็มคล้ายไส้ของข้าวเกรียบปากหม้อหรือไส้สาคูไส้หมู เพียงแต่จะไม่ใส่หัวผักกาดแห้งหรือไชโป๊ว แต่งหน้าด้วยพริกชี้ฟ้าซอยหรือผักชี นิยมหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
2. แกงรัญจวน
เป็นแกงเนื้อชนิดหนึ่ง ที่ถูกคิดค้นและตั้งชื่อโดยหม่อมเจ้าหญิงแย้มเยื้อน สิงหรา ดัดแปลงจากการนำเนื้อที่เหลือจากสำรับของเจ้านายพระองค์ต่างๆ นำมาปรุงรสใหม่ ได้รสชาติออกรสเปรี้ยว เผ็ด เค็ม และหวาน มีใบโหระพาใส่ พร้อมซอยพริกชี้ฟ้าแดงลงไป ได้ความหอมของพริกแดง จึงทำให้แกงสูตรใหม่นี้มีกลิ่นหอมรัญจวนสมชื่อเป็นอย่างยิ่ง
3. แสร้งว่า
อีกเมนูยำชื่อแปลก “แสร้งว่า” จัดเป็นหนึ่งในอาหารชาววังที่มีหน้าตาคล้ายกับพล่ากุ้ง แต่มักใช้กุ้งที่ย่างหรือลวกจนสุก รสชาติไม่เหมือนยำ แต่ออกรสเปรี้ยวหวาน ใส่ผิวมะกรูดและตะไคร้หั่นฝอย คลุกเคล้ากับผักชนิดต่างๆ ทานคู่กับเครื่องแนมอย่างหมูหวานหรือปลาดุกฟูเพิ่มความอร่อยละมุนลิ้นยิ่งขึ้น
4. หมูโสร่ง
อาหารว่างที่พบเจอได้แต่ภัตตาคารใหญ่ๆ แม้จะทำไม่ยาก แต่นับวันก็ยิ่งสูญหาย หมูโสร่ง เป็นหมูสับปรุงรส ปั้นกลมแล้วนำไปลวกพอสุก และนำหมี่ซั่วมาพันหมูที่ลวกแล้วไปมา แล้วจึงทอดในน้ำมัน คล้ายๆ ปอเปี๊ยะทอด ต่างจากไม่ใช่แผ่นเกี๊ยว แต่เป็นเส้นหมี่ซั่วแทน
5. แกงลูกกล้วย
เป็นแกงกะทิตามแบบฉบับชาวใต้ที่ใส่กล้วยเล็บมือนางหรือกล้วยน้ำว้าดิบลงไปเป็นส่วนผสมหลัก จะใส่เนื้อสัตว์อะไรลงไปก็ได้ตามชอบ เครื่องแกงมีที่สำคัญๆ คือ ขมิ้น ข่า ตะไคร้ พริกขี้หนูแห้ง พริกไทยดำ และใบมะกรูด โดยบางตำรับก็พัฒนาเครื่องปรุงด้วย โดยใส่ลูกผักชีคั่วอหอมเพื่อเพิ่มความหอมของพริกแกงให้มากขึ้น
